รีวิวหนัง 13 Sins
จัดได้ว่าเป็นหนังรีเมคที่บ้านเราต้องจับตามองจริงๆ เพราะมันเป็นหนังรีเมคจากภาพยนตร์สุดแนวอย่าง 13 เกมสยอง ของ มะเดี่ยว ที่ทำเอาหลายคนจิตผวาถึงด้านมืดของมนุษย์มาแล้วเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในฉบับรีเมคนี้กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ก็มีข่าวลอดออกมามากมาย จนกระทั่งสุดท้ายตัวหนังก็ตกเป็นของผกก. เดเนียล สตามม์ จาก The Last Exorcism นั่นเอง สปอยล์หนังใหม่
13 Sins ถ่ายทอดเรื่องราวของ เอเลียต บรินเดิล (มาร์ค เว็บเบอร์) เซลส์แมนหนุ่มดวงตกที่กำลังมืดบอดจากปัญหาที่รุมเร้าเข้ามารอบด้าน แต่จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์ลึกลับที่อ้างว่าเขากำลังร่วมสนุกในรายการเกมโชว์รายการหนึ่ง ซึ่งเสนอเงินรางวัลสูงถึง 6.2 ล้านเหรียญฯ ถ้าเขารับคำท้าที่จะทำภารกิจวัดใจ เอเลียต ไม่มีทางเลือกนอกจากตอบตกลง โดยที่หารู้ไม่ว่า ถึงจะยิ่งเล่น เงินในบัญชีอาจจะยิ่งเพิ่ม แต่ 13 คำท้า กลับมาพร้อม 13 ประสบการณ์ระทึกที่จะดึงเขาสู่ด้านมืดของมนุษย์จนเหนือการควบคุม อาทิ กินแมลงวันตัวเป็นๆ, พังงานแต่งงานของแฟนเก่า, จุดไฟเผาโบสถ์ หรือตัดแขนคนที่เคยกลั่นแกล้งเขา ซึ่งผู้ชมต้องลุ้นตามไปพร้อมกันว่า บทสรุปของเกมระทึกครั้งนี้จะเปลี่ยนทั้งชีวิตของ เอเลียต ไปจนถึงระดับไหน ต้องติดตาม
ซึ่งถ้าหากใครที่ได้ดูต้นฉบับของบ้านเราอย่าง 13 เกมสยอง คงจะพบได้ว่านอกจากความอุบาทว์และโหดร้ายในแต่ละด่านที่ตัวเอกต้องพบเจอ มันยังค่อยๆกัดกินความเป็นมนุษย์ของเขาไปอีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาจึงหนีไม่พ้นทำให้คนดูต้องรู้สึกกลัวขีดจำกัดของมนุษย์ ที่จะสามารถยอมก้าวไปสู่นรกได้เพียงเพราะต้องการ เงิน นั่นเอง แต่ก็ดูเหมือนว่าในฉบับรีเมค จะไม่ได้ต้องการทำตามที่ต้นฉบับเขาได้สร้างไว้ จากคำสัมภาษณ์ของผกก. สตามม์ ให้คำนิยามของความหมาย รีเมค คือ การที่ไม่ทำตามต้นฉบับเป๊ะๆ แต่ก็ต้องมีแนวทางของตนเองใส่ลงไปในหนังเรื่องนั่นด้วย ซึ่งหลังจากได้ดู 13 Sins แล้วก็พบว่าหนังได้ดัดเปลี่ยนจากต้นฉบับไปมากพอสมควร แต่ปัญหาคือมันมีทั้งในส่วนที่ดี และ ไม่ดีเนี่ยสิ
โดยส่วนที่ต้องขอชื่นชมสำหรับ 13 Sins ในฉบับรีเมค นอกจากหนังจะเปลี่ยนด่านท้าประลองที่พระเอกจะต้องพบเจอ ที่มันอาจจะไม่แหวะ หรือ โหดร้าย กว่าต้นฉบับ แต่มันก็เป็นด่านแต่ด่านที่ค่อยๆกัดกิน และ ปลอกเปลือกตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมาได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องทำให้เด็กร้องไห้ หรือ ทำลายแก้วเซรามิค ซึ่งฟังๆดูแล้วอาจจะไม่ได้ดูโหดร้าย แต่เนื่องด้วยการวางตัวละครพระเอกในฉบับนี้ค่อนข้างจะเป็นคนที่แสนดี จึงไม่แปลกถ้าหากคนดูจะรู้สึกแตกร้าวไปกับการกระทำในแต่ละด่านของเขา โดยเอาเข้าจริงๆถึงแม้จะเปิดตัวมาเป็นเช่นนี้ แต่ตัวหนังก็ไม่ได้เดินตามเข้าสู่ห้วงมืดแบบที่ ต้นฉบับ ทำสักเท่าไหร่นัก หนำซ้ำการที่หนังบิดเบือนข้อเท็จจริงหลายอย่างก็จัดได้ว่าเป็นจุดเด่นได้ค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว เพราะท้ายสุดแล้วถึงแม้มันจะไม่ดาร์คอย่างที่หวัง มันก็เป็นหนังสอนธรรมให้แก่คนที่ต้องการ วิธีรวยทางลัด ที่แม้แต่ต้องยอมแลกความเป็นมนุษย์ได้เป็นอย่างดี
ทีมนักแสดงทั้ง มาร์ค เว็บเบอร์ และ รอน เพิร์ลแมน ก็ต่างรับบทของตนได้อย่างไม่น่าเกลียดนัก ถึงแม้ว่าราศีของ มาร์ค เว็บเบอร์ อาจจะไม่เทียบเท่าพี่น้อยในฉบับของบ้านเรา ส่วน รอน เพิร์ลแมน ก็แน่นอนว่ายังไม่สามารถเทียบ พี่ตั้ว ได้นั่นเอง
แต่ที่นี้ปัญหาของหนังมันอยู่ที่ไหนหล่ะ ปัญหาจริงๆของ 13 Sins มันก็ยังคงหนีไม่พ้นการที่ถ้าหากตัวหนังถูกมองผ่านสายตาของคนที่ดูต้นฉบับมาแล้ว คนดูก็แน่นอนว่าต้องการจะคาดหวังที่จะเห็นอะไรที่มันดิบ เถื่อน และ จัดจ้าน กว่านี้เป็นธรรมดา เพราะถ้าหากพูดถึง 13 เกมสยอง คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากฉากกินของเสีย หรือแม้แต่จุดหักมุมสุดสะเทือนใจ ซึ่งในฉบับนี้แน่นอนว่าพอบิดโครงเรื่องซะขนาดนี้ มันจึงไม่สามารถตอบสนองให้กับแฟนๆได้อย่างดีแน่นอน ซึ่งถ้าหากใครที่การลอง 13 เกมสยองในฉบับที่อ่อนลงมากว่าของไทยเรานิดนึง 13 Sins ก็น่าจะตอบโจทย์คุณได้ แต่ถ้าหากใครที่ยังติดภาพเก่าๆของฉบับไทยอยู่ คุณก็อาจจะผิดหวังได้เล็กน้อยครับ
Comments
Post a Comment