รีวิวหนัง : BOHEMIAN RHAPSODY

เรื่องย่อ:ชีวประวัติที่ได้รับอนุญาตของวงดนตรีร็อคคลาสสิกของ Queen ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาอยู่ในอังกฤษ ผ่านความสำเร็จที่ก้าวหน้าในอเมริกาเหนือ นักร้องนำของ Freddie Mercury ( รามี มาเล็ค ) ต่อสู้กับชื่อเสียงและส่วนเกิน และในที่สุด การแสดง Live Aid ที่ประสบความสำเร็จของพวกเขา

REVIEW:ชีวประวัติของ Queen นั้นเกินกำหนดมานานแล้ว แต่ก็ไม่เคยเป็นหูดและเวอร์ชันทั้งหมดที่พวกเราบางคนอาจต้องการ ยังคงอยู่ในโหมดทัวร์ริ่งอย่างมาก สมาชิกที่รอดตายของวงไม่เคยทำให้มรดกของพวกเขาเสื่อมเสียด้วยการเปิดเผยที่เหมือน THE DOORS โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักร้องนำ Freddie Mercury ที่เสียชีวิตไปยี่สิบเจ็ดปีแล้วและไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ เพื่อเพิ่มของเขา เป็นเจ้าของสองเซ็นต์

ดังนั้น ทางวงจึงร่วมกับโปรดิวเซอร์ Graham King (ซึ่งนี่เป็นโปรเจ็กต์ที่หลงใหล) และให้เครดิตกับผู้กำกับBryan Singerได้ทำพิธีเฉลิมพระเกียรติมรดก ทว่าในความพยายามที่จะลดทอนเนื้อหาลง คุณอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องได้ทำสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อวงดนตรีโดยเฉพาะ Mercury ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกี่ยวข้องกับการรักร่วมเพศของ Mercury และคุณอดไม่ได้ที่จะสังเกตว่าการรักร่วมเพศของเขาได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นความลับดำมืดที่นำพาเขาไปสู่เส้นทางที่มากเกินไป ฉันแน่ใจว่าการเป็นเกย์ไม่ใช่เหตุผลเดียวสำหรับเรื่องนั้น และในขณะที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีทางพยายามที่จะเป็นปรักปรำอย่างมีสติ คุณไม่สามารถโต้แย้งได้หากมีคนตีความเรื่องดังกล่าว อันที่จริง ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการพรรณนาถึงการรักร่วมเพศอย่างตรงไปตรงมา หากมีการสร้างขึ้นในปี 1992 ในปี 2018 ผู้ชมคาดหวังบางสิ่งที่เหมาะสมกว่าเล็กน้อย รีวิวหนัง Netflix

ความจริงก็คือ ถ้าเฟรดดี้ไม่ได้เป็นเกย์ เฟรดดี้ก็คงไม่ใช่เฟรดดี้ และควีนก็คงไม่ใช่ควีนแน่นอน นอกจากนั้นBOHEMIAN RHAPSODYยังเป็นถุงผสม ที่โด่งดังคือไบรอัน ซิงเกอร์ถูกแทนที่ในช่วงท้ายของการถ่ายภาพหลัก และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปให้ความรู้สึกเหมือนของที่มีผู้คนจำนวนมากเรียกร้องคำพูด ทำให้รู้สึกไม่ปะติดปะต่อ การแสดงบางส่วนได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Allen Leech ในบท Paul Prenter ผู้จัดการของ Freddie ซึ่งถูกนำเสนอเป็น Svengali ที่ชั่วร้าย บางครั้ง Leech เล่นได้ดี แต่ในบางครั้งเขาถูกมองว่าเป็นคนเลวที่เคี้ยวทิวทัศน์ อีกครั้งนี้รู้สึกเหมือนเป็นการปะทะกันของมุมมอง

โชคดีที่การแสดงหลักจากRami Malekและผู้เล่นที่เหลือในวงนั้นตรงจุด แม้ว่าฉันจะไม่คิดว่า Malek จะดูเหมือน Mercury เป็นพิเศษ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาได้รวบรวมความลึกลับของชายผู้นี้ไว้ด้วยใจจริง เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างถูกกฎหมาย Gwilym Lee, Ben Hardy และJoseph Mazzello รับบทเป็น Brian May, Roger Taylor และ John Deacon ค่อนข้างดีเช่นกัน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างจะยอมรับความอิจฉาริษยาของ Mercury แม้ว่าในท้ายที่สุดเขาจะไปบันทึกอัลบั้มเดี่ยวเขาก็ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมเล็กน้อย และเพลงถูกตัดออก (จริงๆ แล้วเขาบันทึกเพลงคลาสสิกสองสามเพลง) Lucy Boyntonจาก SING STREET ก็ค่อนข้างดีพอๆ กับ Mary Austin คู่รักของ Mercury และMike Myers มีนักแสดงรับเชิญที่สนุกสนานในฐานะผู้บริหารของ EMI ผู้ซึ่งพิจารณาว่า WAYNE'S WORLD เป็นที่นิยมในเพลงอย่างไร และดูถูก “Bohemian Rhapsody”

หากไม่สมบูรณ์ BOHEMIAN RHAPSODY ประสบความสำเร็จในด้านที่สำคัญที่สุดในการบอกเล่าเรื่องราวของควีน - พวกเขาเก่งเรื่องดนตรี ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเฉลิมฉลองแคตตาล็อกของพวกเขาและการแสดงบนเวทีที่น่าทึ่งของพวกเขา และดนตรีก็เตะตาราวกับว่าคุณฟังในเสียงโรงละครขนาดใหญ่ที่ใหญ่โต ที่จริงแล้ววงแสดงอารมณ์ขันบางอย่างเกี่ยวกับตัวเอง ล้อเลียนชื่ออย่าง "I'm in Love With My Car" จาก "A Night at the Opera" และแชร์บทวิจารณ์ที่น่าสยดสยองว่า "Bohemian Rhapsody" สุดคลาสสิกในตอนนี้ กับในเบื้องต้น

ในขณะที่บทละครที่พบว่าเรื่องราวถึงจุดสุดยอดที่ Live Aid นั้นไม่ใช่เพลงสุดท้ายของวง (พวกเขาบันทึกเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง HIGHLANDER ของสุนัขบ้าในอีกหนึ่งปีต่อมาและบันทึกร่วมกันจนกระทั่งไม่กี่วันก่อนที่ Mercury จะเสียชีวิต) พวกเขาก็ส่งพวกเขาออกไปอย่างแน่นอน บันทึกชัยชนะ ฉากที่มีชื่อเสียงของพวกเขาจากเวมบลีย์ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่อย่างยอดเยี่ยม และซีเควนซ์ที่กล้าหาญนี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งแรกที่พวกเขาถ่ายทำ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เรื่องนี้ต้องไม่พลาด

แม้ว่าจะไม่ใช่แนวเพลงที่นิยามใหม่ของเพลงชีวประวัติของ Queen อาจหิวโหยและบางทีก็วนิลลาเกินไป BOHEMIAN RHAPSODY ยังคงเป็นผลงานด้านความบันเทิงขนาดใหญ่และเป็นสิ่งที่ควรหาผู้ชมจำนวนมาก มันอาจจะไม่ได้เปิดเผย แต่มันจะช่วยให้ความลึกลับของวงคงอยู่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งมีแนวโน้มว่าเป้าหมายคือตลอดมา